Categories
Life

ทำงานเพื่องาน

หลายครั้งหลายหนที่เรามักเริ่มลงมือทำอะไรบางอย่างด้วยความคาดหวัง

คาดหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น

คาดหวังว่าจะร่ำรวยขึ้น

คาดหวังว่าจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น

และอีกสารพัดความคาดหวังเท่าที่คนจะมีได้

ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา การที่คนเราตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง เราต้องมีเป้าประสงค์ในใจก่อนอยู่แล้ว มิฉะนั้นเราก็คงไม่รู้ว่าเราทำไปเพื่ออะไร

อย่างไรก็ตาม มักมีความผิดพลาดอย่างหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นโดยที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม

คือการที่เราไปยึดติดกับความคาดหวังมากเสียจนลืมให้ความสำคัญกับ “เรื่องราวระหว่างทาง”

เราอยากไปถึงปลายทางและได้ผลอย่างที่คาดหวังเอาไว้ให้เร็วที่สุด

ซึ่งก็อีกนั่นแหละ ใคร ๆ ก็อยากได้ผลลัพธ์ให้เร็วที่สุดทั้งนั้น ไม่ว่าจะทำอะไร

แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เรื่องราวระหว่างทาง” มักมีปัจจัยที่เราไม่คาดคิดเกิดขึ้นอยู่เสมอ ซึ่งมีโอกาสทำให้ความคาดหวังของเราไม่เป็นไปดั่งใจ

เมื่อไม่เป็นดั่งใจ ก็ทำให้ทุกข์

ทุกข์หนักเข้าก็อาจล้มเลิกในที่ที่กำลังทำอยู่ ไปไม่ถึงปลายทางที่ต้องการ

ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้มันก็คงไม่ดีสักเท่าไรแน่

.

.

ความผิดพลาดดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้น มันคือการที่เราเอาใจไปผูกติดกับ “อนาคต” มากเกินไป

เรามีความคาดหวังว่าพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้

เรามีความคาดหวังว่าเมื่อเรารวยกว่านี้ เราจะมีความสุขกว่าตอนนี้

เรามีความคาดหวังว่าถ้าเราสุขภาพดีแล้ว เราจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้

โลกในอนาคตที่เราคาดหวังสวยงามกว่าวันนี้เสมอ

ซึ่งถ้ามันเป็นอย่างที่เราคาดหวัง มันก็อาจจะสวยงามเช่นนั้นจริงนะ

อย่างไรก็ตาม เราอาจต้องพยายามเตือนตัวเองเอาไว้ว่า นั่นคือ “อนาคต”

การพยายามทำให้เกิดอนาคตที่ดีนั้น เหตุปัจจัยที่สำคัญคือ “ปัจจุบัน”

.

.

มีคำสอนของท่านพุทธทาสเรื่องหนึ่ง ที่ผมมักจะใช้เตือนตัวเอง

ถึงแม้ว่าผมจะทำตามได้บ้าง ทำไม่ได้บ้าง ตามแต่กำลังสติที่มีอยู่ในแต่ละช่วงของชีวิต

ท่านพุทธทาสเคยกล่าวเอาไว้ในทำนองว่า “ให้เราทำงานเพื่องาน”

การทำงานเพื่องาน ในความเข้าใจของผมคือ คือ การจดจ่อ ใส่ใจ และให้ใจอยู่กับงานข้างหน้า หรือ “ปัจจุบัน”

ถ้าเราทำ “ปัจจุบัน” ได้ดี เราก็จะมีความสุข ณ ตอนนี้ที่ได้เห็นผลลัพธ์หรือชิ้นงานตรงหน้าดำเนินไปอย่างดี เพราะความตั้งใจของเรา

และหากสิ่งที่เราทำมันดีมากพอและสั่งสมทบกันไป ผลลัพธ์ใน “อนาคต” ก็จะเป็นไปตามที่เราคาดหวังเอง

ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องงานเท่านั้น ผมว่าคำสอนนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิตเลยล่ะ

.

.

เป็นเรื่องดีนะที่คนเราจะมีความคาดหวังหรือความใฝ่ฝันที่จะทำอนาคตให้ดีขึ้น

แต่ก็จะดียิ่งกว่าถ้าเราสามารถมีความสุขกับปัจจุบันได้ แม้ผลลัพธ์ที่ต้องการที่สุดจะยังไม่มาถึง

การบาลานซ์ระหว่างปัจจุบันกับอนาคตได้ คงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

ตอนนี้ตัวผมเองก็กำลังพยายามเตือนตนอยู่เหมือนกัน

ถ้าผมมีความสุขกับการเขียนในวันนี้ได้ เรื่องการเขียนให้ต่อเนื่องก็จะเป็นเรื่องสบาย ๆ และผมคงรักการเขียนไปเอง

ฝืนใจตัวเองหน่อยนะตอนนี้ 😛