ระบบทุนนิยมส่งผลให้เราให้คุณค่ากับการหาสิ่งใด ๆ มาครอบครอง
มีสิ่งเร้าต่าง ๆ มากมายที่กระตุ้นความอยากของเรา
อยากได้โน่น อยากได้นี่ เต็มไปหมด
และพยายามไขว่คว้าให้ได้มา
ในขณะที่เรายังไม่ได้สิ่งนั้นมาครอบครอง
หลายครั้งเราก็รู้สึกว่าเรายังขาดสิ่งนั้นอยู่
ถ้าพูดถึงวัตถุ
อย่างสิ่งที่สังคมมักจะรู้สึกว่า เอ้อ ต้องหามาครองสิ
บ้านหลังใหญ่ ๆ รถหรู ๆ เงินเยอะ ๆ และอื่น ๆ อีกสารพัด
ถ้าเรายังไม่มีสิ่งเหล่านี้ ซ้ำด้วยความเชื่อของสังคม
เราก็อาจจะรู้สึกขาดได้ไม่ยาก
ชีวิตเรายังขาดสิ่งนั้น ยังต้องการสิ่งนี้
และเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ขาด เราก็ต้องออกแรงไขว่คว้าให้ได้มา
ถ้าชีวิตปัจจุบันของเรา รู้สึกว่ายังขาดนั่นนี่อยู่มากมาย
และออกแรงจนเหนื่อยล้า แต่ก็ยังรู้สึกว่าขาดอยู่
ลองนั่งนิ่ง ๆ แล้วทบทวนดี ๆ
ว่าความรู้สึกขาดที่มีอยู่นี้ เป็นความรู้สึกที่จำเป็นจริง ๆ หรือเปล่า
ของที่เรารู้สึกว่าขาด เป็นความต้องการของเราจริงหรือเปล่า
หรือแท้จริงแล้ว เพียงแค่สังคมบอกให้เราทำตามโดยไม่รู้ตัว
จำเป็นจริง ๆ เหรอที่เราต้องเหนื่อยแทบเป็นแทบตายเพื่อของที่เราขาดอยู่
ซึ่งถ้ามันเป็นความต้องการของเราจริง ๆ จำเป็นจริง ๆ
เราก็อาจจะต้องยอมรับ เพราะมันคือผลลัพธ์ของความต้องการของเราจริง ๆ
แต่ถ้าไม่ เราจะได้ถอนใจออกมา และรู้สึกขาดน้อยลง
หรือถ้าจะให้ดีไปกว่านั้น
เราอาจเลิกมองในสิ่งที่เราขาด
และกลับมายินดีในสิ่งที่เรามีแทน
ยินดีและพึงพอใจในสิ่งที่มีให้มากขึ้น
รู้สึกขาดให้น้อยลง
ถ้าบาลานซ์ตรงนี้ได้
ชีวิตในโลกทุนนิยมของเราก็จะเบาสบายง่ายขึ้นมากครับ 🙂