คุณเคยเป็นแบบนี้ไหมครับ
เปิด Netflix มา เลื่อนดูว่ามีหนังอะไรน่าดูบ้าง
เลื่อนไปเรื่อย ๆ กดเข้าไปดูตัวอย่างบ้าง นั่งอ่านรายละเอียดบ้าง อยู่นานสองนาน
เรื่องนั้นก็น่าดู เรื่องนี้ก็น่าดู หนังน่าดูเต็มไปหมด
แต่สุดท้ายก็ปิด เพราะไม่รู้จะดูอะไรดี
ถ้าคุณเคยเป็น ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวหรอกครับที่เกิดอาการแบบนี้
ผมเองก็เป็นครับ ฮ่า ๆ
.
.
ในปี 1970 โลกได้รู้จักกับคำว่า “Overchoice” เป็นครั้งแรก จากหนังสือ Future Shock ซึ่งเขียนโดย Alvin Toffler
คำ ๆ นี้ หมายถึง อาการที่ผู้คนตัดสินใจได้ยากขึ้นเมื่อมีตัวเลือกที่เยอะจนเกินไป
จริงอยู่ที่คนเราชอบมีตัวเลือกและชอบเป็นผู้เลือก
แต่ตัวเลือกที่เยอะเกินไป จะทำให้คนเราตัดสินใจได้ลำบากขึ้น
เพราะเรากลัวที่เราจะตัดสินใจพลาด เลือกตัวเลือกที่ผิด และพลาดโอกาสที่ดีกว่าไป
ถ้ากลับไปที่กรณี Netflix
ผมไม่รู้ว่าคนอื่นคิดยังไงบ้าง แต่สิ่งที่ผมคิดอย่างหนึ่งก่อนจะตัดสินใจดูหนังสักเรื่อง
คือ มันจะสนุกคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปหรือเปล่า
ถ้าไม่สนุกก็เสียดายเวลาแย่ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
คิดแล้วก็เลื่อนดูไปเรื่อย ๆ สุดท้ายไม่ได้ดูสักเรื่อง
เอาจริง ๆ ก็เสียเวลาเหมือนกันแหละ ฮ่า ๆ
.
.
เรื่องนี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ ตัวอย่างหนึ่งในชีวิตของเรา
โลกปัจจุบัน เป็นโลกที่เต็มไปด้วยทางเลือก
ยิ่งโลกหมุนไปเร็วเท่าไร ทางเลือกในแต่ละเรื่องของชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นการงาน สุขภาพ ความสัมพันธ์ ฯลฯ
เรามีทางเลือกเต็มไปหมด
และอาจทำให้เรามึนงงจนไม่อาจตัดสินใจได้
ถ้ามันเป็นเรื่องเล็ก ๆ อย่างดูหนังใน Netflix ก็อาจไม่มีผลมากกับชีวิตสักเท่าไหร่
แต่ถ้ามันเป็นเรื่องที่สำคัญกับชีวิตมาก ๆ ล่ะ
เช่น การเลือกคู่ การเลือกงาน การเลือกให้ลำดับความสำคัญของผู้คนในชีวิต
คุณจะทำอย่างไร ?
.
.
จบบล็อกนี้เอาไว้ดื้อ ๆ แค่นี้เลยแล้วกันครับ
ไปก่อนล่ะ ผมจะรีบไปดู Netflix 😛