นั่งหน้าคอมมาประมาณชั่วโมงแล้ว
ยังไม่รู้จะเขียนบล็อกเรื่องอะไรดี
งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน เขียนเรื่องไม่รู้จะเขียนอะไรเนี่ยแหละ
นั่งหน้าคอมมาประมาณชั่วโมงแล้ว
ยังไม่รู้จะเขียนบล็อกเรื่องอะไรดี
งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน เขียนเรื่องไม่รู้จะเขียนอะไรเนี่ยแหละ
เพิ่งได้อ่านเรื่องของ ร้านกะเพราตาแป๊ะ จาก The Cloud
ร้านกะเพราตาแป๊ะ เป็นร้านอาหารที่เน้นเมนูผัดกะเพราเป็นหลักตามชื่อ
แต่สิ่งที่ทำให้ผัดกะเพราร้านนี้น่าสนใจ คือ ความหลงใหลในผัดกะเพราชนิดที่ไม่ธรรมดาของคุณแป๊ะ เจ้าของร้าน
ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาคุณแป๊ะพยายามปรับปรุงและพัฒนาผัดกะเพรามาตลอด
พัฒนาในทุกรายละเอียดไม่ว่าจะเป็น ชนิดของพริกที่ใช้ ชนิดของใบกะเพรา สัดส่วนของหมู ไปจนถึงวิธีการผัด
เรียกว่าใส่ใจในทุกรายละเอียดที่จะทำให้เกิดเป็นผัดกะเพราจานหนึ่งก็ว่าได้
หลังจากอ่านบทสัมภาษณ์จบแล้ว เรื่องราวของความใส่ใจนี้ทำให้อยากลิ้มลองผัดกะเพราของร้านนี้สักครั้งหนึ่ง
เพราะผมรู้สึกว่าผัดกะเพราร้านนี้น่าจะพิเศษกว่าที่อื่น
.
.
สมัยประถม ที่โรงอาหารโรงเรียนมีร้านขายขนมไทยเล็ก ๆ อยู่ร้านหนึ่ง
เท่าที่จำได้ ขนมที่คุณป้าเจ้าของร้านเอามาขายจะมีอยู่ไม่มากชนิดนัก
หลัก ๆ เลยในความทรงจำคือลูกชุบหน้าตาดี ปั้นเป็นรูปผักนานาชนิดสารพัดสีสัน
และ วุ้นสีเหลืองสดใสที่มีชื่อว่า “วุ้นไข่”
.
.
วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วที่ผมเขียนบล็อกติดต่อกัน
อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แค่ 3 วันแป้บเดียวเอง
แต่สำหรับผม นี่คือหลักชัยแรกที่ตั้งใจเอาไว้
หลายครั้งหลายหนที่เรามักเริ่มลงมือทำอะไรบางอย่างด้วยความคาดหวัง
คาดหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น
คาดหวังว่าจะร่ำรวยขึ้น
คาดหวังว่าจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น
และอีกสารพัดความคาดหวังเท่าที่คนจะมีได้
เอาจริง ๆ นะ ระยะหลังมานี้ผมรู้สึกไม่ชอบการเขียนเลย
เมื่อก่อนเคยเขียนบล็อก เขียนบทความต่าง ๆ ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากคนอ่าน
บ้างก็มาขอบคุณที่งานเขียนของเราก่อให้เกิดประโยชน์กับเขา
ไปจนถึงขั้นมาขอใช้ข้อมูลของบล็อกไปประกอบการเขียนธีสิส
ทุกครั้งที่ได้รับฟีดแบ็กดี ๆ ที่เกิดจากงานเขียน เราดีใจมาก
ดีใจที่งานของเราสามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนได้
แต่ท้ายที่สุดแล้วเรากลับรักษาความสม่ำเสมอของการเขียนเอาไว้ไม่ได้เลย
บล็อกของเราก็ปิด ๆ เปิด ๆ มาหลายเวอร์ชันแล้ว
จริง ๆ เรียกได้ว่าปัจจุบันลามมาจนถึงการอัพเดทสเตตัสในโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้วล่ะ
เป็นวันที่น่ายินดีที่ Event Pop สตาร์ทอัพอีเว้นท์สุดร้อนแรงของน้องๆฝีมือฉกาจ คือ มิว (แม็กซ์) หนุ่ม และผองเพื่อนได้รับเงินลงทุนจาก Corporate VC รายใหญ่อย่าง InVent ของเครือ Intouch และ Beacon Venture Capital ของธนาคารกสิกรไทย เพื่อขยับขยายธุรกิจให้เติบโตต่อไป
เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา บนฟีดเฟซบุ๊กผมเริ่มมีรูปเสื้อยืดที่ดูดีมีสไตล์ของแบรนด์ๆหนึ่งขึ้นมาผ่านตาผมหลายครั้ง จนวันหนึ่งก็ได้รู้ว่า มิว (หรือแม็กซ์) แห่ง อีเวนท์ป๊อป และผองเพื่อนกำลังจะเริ่มทำธุรกิจเสื้อยืดใหม่ซึ่งมีชื่อว่า Wear, Don’t Think นั่นเอง และมิวเองก็อุตส่าห์ส่งเสื้อมาให้ผมลองใส่ด้วย เลยขอเอามาเขียนรีวิวสักหน่อย
เมื่อวันที่ 10 – 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไป ‘ธุดงค์’ เป็นครั้งแรกของชีวิต (ในฐานะฆราวาส) ที่ดอยอินการธุดงค์ครั้งนี้เป็นการสอบภาคปฏิบัติของหลักสูตรครูสมาธิ หลักสูตร 6 เดือนที่ ‘หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร’ อริยสงฆ์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต