Categories
Life

ฟัง

เวลาพูดคุยกับคู่สนทนา เรากำลังฟังอยู่หรือเปล่า

หรือว่าเราเพียงได้ยิน ก่อนที่ทุกอย่างจะพาดผ่านไป

ตามด้วยจังหวะที่เราจะแสดงอัตตาตัวโตของเราออกมาทางคำพูดให้อีกฝ่ายสัมผัส

จนถึงจุดหนึ่งเราก็จะหยุด และปล่อยให้อีกฝ่ายพูด

เพื่อที่จะหาจังหวะของเราอีกครั้งหนึ่ง เป็นเช่นนี้สลับไป

.

.

การฟังกับการได้ยินแตกต่างกันที่ความใส่ใจต่อคู่สนทนา

การใส่ใจต่อคู่สนทนาเป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝน

เพราะโดยทั่วไป มนุษย์จะเริ่มที่ขอบเขตของความเป็น “ตัวเรา” มากกว่า

ซึ่งคู่สนทนาไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม อยู่นอกเหนือขอบเขตนี้

และการอยู่กับความเป็น “เรา” นั้นง่ายกว่าการให้ความสำคัญกับ “เขา”

การพูดคือเรื่องของ “เรา”

การฟังคือเรื่องของ “เขา”

ด้วยเหตุนี้การฟังจึงเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย

.

.

โดยส่วนใหญ่คนที่โดดเด่นในสังคมมักจะมีทักษะการพูดที่ดี

จึงทำให้คนจำนวนมากมุ่งฝึกฝนเรื่องการพูด

ในขณะที่เราไม่สามารถรับรู้ถึงทักษะการฟังของผู้คนได้หากสัมผัสเพียงผิวเผิน

การฟังจึงดูโดดเด่นรองจากการพูด

อย่างไรก็ตาม แม้จะโดดเด่นน้อยกว่า

แต่พลังของการฟังไม่ได้ด้อยกว่าการพูดเลย

เพราะเหตุผลเดิมที่ว่าคนเรามักจะสนใจเรื่องของตัวเองมากที่สุด

และการฟังเป็นการนำโฟกัสไปอยู่ที่ “เขา” นั่นคือตัวตนของคู่สนทนา

คือ “เรา” ในมุมของคู่สนทนา

นั่นคือคุณกำลังให้ความสำคัญกับสิ่งที่คู่สนทนาให้ความสนใจมากที่สุดอยู่

และเป็นจุดเริ่มต้นที่คู่สนทนาจะเปิดใจให้กับคุณ

.

.

ท้ายที่สุดแล้ว แม้ทักษะการพูดที่ดีจะสำคัญ

แต่อย่าลืมให้ความสำคัญกับการฟัง

แม้จะรับรู้ได้ยากกว่าการเอ่ยคำพูดที่ไพเราะหวานหู แต่การฟังอย่างสงบและตั้งใจก็มีพลังที่สามารถกุมใจผู้คนได้ไม่แพ้กัน