วันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี
ถือว่าเป็นวันเทศกาลแห่งดวงดาว หรือ ทานาบาตะ ของญี่ปุ่น
ทานาบาตะ แปลเป็นไทย คือ ยามเย็นวันที่ 7
ที่มาของวันนี้ มาจากเรื่องเล่าโบราณแห่งแดนอาทิตย์อุทัย
วันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี
ถือว่าเป็นวันเทศกาลแห่งดวงดาว หรือ ทานาบาตะ ของญี่ปุ่น
ทานาบาตะ แปลเป็นไทย คือ ยามเย็นวันที่ 7
ที่มาของวันนี้ มาจากเรื่องเล่าโบราณแห่งแดนอาทิตย์อุทัย
โดยทั่วไปเรามักจะมอง “การให้” ในแง่ดีมากกว่า “การรับ”
ถ้าหนักหน่อย บางทีเราก็อาจเผลอรู้สึกไปว่าการเป็นผู้รับเป็นเรื่องที่ไม่โอเคเท่าไหร่
ถ้าเป็นผู้รับแล้วจะแสดงถึงความไม่เกรงใจของเรา ดูไม่ดี หรือติดค้างหนี้กัน
แต่ที่จริงแล้วมันแย่ขนาดนั้นหรือเปล่า ?
คุณเคยเป็นแบบนี้ไหมครับ
เปิด Netflix มา เลื่อนดูว่ามีหนังอะไรน่าดูบ้าง
เลื่อนไปเรื่อย ๆ กดเข้าไปดูตัวอย่างบ้าง นั่งอ่านรายละเอียดบ้าง อยู่นานสองนาน
เรื่องนั้นก็น่าดู เรื่องนี้ก็น่าดู หนังน่าดูเต็มไปหมด
กว่าจะได้บทความวันนี้มา เขียน ๆ ลบ ๆ ไปหลายรอบ
เวลาอัพเดตบล็อก บางทีเขียน ๆ เรื่องหนึ่งอยู่แล้วเกิดอาการเปลี่ยนใจ อยากไปเล่าอีกเรื่องแทน
ก็เลยลบที่เขียนทั้งหมดและลงมือเขียนใหม่
วันก่อนเห็นข่าวเศร้าของ แต้ว ณฐพร ที่เพิ่งสูญเสียคุณพ่อไปเพราะอุบัติเหตุ
รายละเอียดของข่าวช่วงหนึ่งได้กล่าวถึงความรักของแต้วที่มีให้กับคุณพ่อของเธอ
และสาเหตุที่เธอทำคลิปลง Tiktok อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
เราอยู่ในยุคสมัยที่ทุกสิ่งอย่างสามารถเป็นน้องได้หมด
ตั้งแต่น้องแท้ ๆ ในสายเลือด ที่ปกติทั่วไป เราเรียกว่าน้อง
หรือ รุ่นน้องที่อายุน้อยกว่าเรา เราเรียกว่าน้อง
อันนี้ก็ธรรมดาสากลอยู่แล้ว
หลังจากอัพเดตบล็อกติดต่อกันมาได้ 7 วัน
วันนี้ได้แนวร่วม เปิดบล็อกใหม่มาเขียนแบบต่อเนื่องด้วยอีก 1 คน
คือน้องโบแห่ง Boboat Yogi Life
(มีสอนโยคะฟรีด้วยนะ ไปตามกันได้)
น้องโบส่งบทความแรกมาให้อ่าน เป็นเรื่องเกี่ยวกับความฝันในสมัยอนุบาล
ผมอ่านแล้วก็เลยลองนึกย้อนกลับไปบ้าง
แต่ไหนแต่ไร ผมติดนิสัยเวลาใช้ความคิดมาก ๆ จะชอบเดินไปเดินมา
เพราะรู้สึกว่าเวลาเดิน สมองมันแล่นดี
บางครั้งคิดเรื่องยาก ๆ ซับซ้อน ก็เรียกได้ว่าเดินกันจนเมื่อยเลยทีเดียว
นั่งหน้าคอมมาประมาณชั่วโมงแล้ว
ยังไม่รู้จะเขียนบล็อกเรื่องอะไรดี
งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน เขียนเรื่องไม่รู้จะเขียนอะไรเนี่ยแหละ
เพิ่งได้อ่านเรื่องของ ร้านกะเพราตาแป๊ะ จาก The Cloud
ร้านกะเพราตาแป๊ะ เป็นร้านอาหารที่เน้นเมนูผัดกะเพราเป็นหลักตามชื่อ
แต่สิ่งที่ทำให้ผัดกะเพราร้านนี้น่าสนใจ คือ ความหลงใหลในผัดกะเพราชนิดที่ไม่ธรรมดาของคุณแป๊ะ เจ้าของร้าน
ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาคุณแป๊ะพยายามปรับปรุงและพัฒนาผัดกะเพรามาตลอด
พัฒนาในทุกรายละเอียดไม่ว่าจะเป็น ชนิดของพริกที่ใช้ ชนิดของใบกะเพรา สัดส่วนของหมู ไปจนถึงวิธีการผัด
เรียกว่าใส่ใจในทุกรายละเอียดที่จะทำให้เกิดเป็นผัดกะเพราจานหนึ่งก็ว่าได้
หลังจากอ่านบทสัมภาษณ์จบแล้ว เรื่องราวของความใส่ใจนี้ทำให้อยากลิ้มลองผัดกะเพราของร้านนี้สักครั้งหนึ่ง
เพราะผมรู้สึกว่าผัดกะเพราร้านนี้น่าจะพิเศษกว่าที่อื่น
.
.